Lifestyle

ความแตกต่างระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์ในปัจจุบัน

รถยนต์ไฟฟ้า

เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสและน่าจับตามองกับเรื่องของ “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่กำลังทยอยเปิดตัวพร้อมกับเข้ามาเปิดขายกันภายในประเทศไทยหลายแบรนด์เลยก็ว่าได้ครับ ด้วยความล้ำสมัยและประโยชน์ต่างๆ อีกมากมายที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับคุณได้อย่างเหลือเชื่อเลยหล่ะครับ บทความนี้จะพาทุกๆ ท่านไปทำความเข้าใจกับ “ความแตกต่างระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์ในปัจจุบัน” กันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเล้ยย!!

ทำความรู้จัก “รถยนต์ไฟฟ้า” คร่าวๆ

รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV (Electric Vehicle) คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ที่มีระบบสันดาปภายใน (น้ำมัน) ซึ่งรถ EV จะใช้พลังงานไฟฟ้าที่บรรจุอยู่ภายในแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จไฟได้ โดยจะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ามาเป็นมาพลังงานกลด้วยมอเตอร์เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนของตัวรถ ซึ่งจุดเด่นของการใช้มอเตอร์ไฟฟ้านั้น จะทำให้รถเกิดแรงบิดได้ทันที อัตราเร่งที่สูง เรียบและรวดเร็ว ต่างจากรถยนต์ทั่วไปที่ต้องใช้การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเพื่อการขับเคลื่อนนั้นเองครับ

ทำความรู้จัก “รถยนต์ระบบสันดาป” คร่าวๆ

รถยนต์ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน คือ รถทั่วไปในปัจจุบันที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้ส่วนผสมของเชื้อเพลิง ซึ่งก็คือ น้ำมันรถยนต์ร่วมกับอากาศที่เกิดขึ้นภายในตัวเครื่องยนต์ แล้วเกิดการอ๊อกซิไดซ์ (Oxidizing) กระทั่งมีการขยายตัว จนแตกตัวภายในห้องเผาไหม้ ทำให้แรงระเบิดจากการเผาไหม้จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน ซึ่งเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในได้พลังงานจากการระเบิดดังกล่าวมาใช้ขับเคลื่อนตัวรถยนต์

สาเหตุที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่

เรื่องของควัน ไอเสีย มลพิษ และการดูแลรักษา

รถยนต์ ที่ใช้น้ำมันทุกคัน เมื่อติดเครื่องยนต์ จะปล่อยไอเสียกลิ่นเหม็นที่ประกอบไปด้วย คาร์บอนไดออกไซด์, ซัลเฟอร์ไดออกไซด์, ไฮโดรคาร์บอน, ไนตริคออกไซด์, ไนโตรเจนออกไซด์, อัลดีไฮด์ และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าชที่สร้างมลพิษ สามารถคร่าชีวิตผู้คนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์มานักต่อนัก อีกทั้งเรื่องของการดูแลชรักษาเครื่องยนต์ยังต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็ดี ซีลยางในจุดต่างๆ เป็นต้น ที่ต้องเสียค่าบำรุงอยู่เป็นปประจำครับ

 แต่หากเราใช้รถยนต์ไฟฟ้า ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้จะหมดไปโดยสิ้นเชิง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้การดูแลรักษาระบบไอเสียอย่าง แคทาไลทิค คอนเวอร์เตอร์ ไม่จำเป็นอีกต่อไปเลยหล่ะครับ เพราะรถไฟฟ้าไม่มีการปล่อยไอเสียนั้นเอง

เรื่องของการเชคระยะวิ่งและการถ่ายนํ้ามันเครื่อง

สำหรับรถยนต์น้ำมันทุกคัน เมื่อซื้อจากโชว์รูมไปใช้งานแล้ว จะต้องนำรถกลับเข้าศูนย์บริการ เพื่อเชคระยะ และถ่ายน้ำมันเครื่อง ซึ่งระยะเวลานั้นขึ้นอยู่กับผู้ผลิตกำหนด แต่ส่วนใหญ่จะกำหนดทุก 10,000 กม. หรือ 6 เดือน แล้วแต่ระยะไหนจะถึงก่อน

แต่เมื่อเราใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว สิ่งเหล่านี้จะไม่ต้องทำอีกต่อไปเลยครับ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์ให้ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ จะมีก็เพียงน้ำมันเบรค น้ำยาหล่อเย็น และน้ำยาแอร์ เท่านั้น (ซึ่งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อย)

เปรียบเทียบระหว่างรถยนต์น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้าแบบง่ายๆ

รถยนต์น้ำมันรถยนต์ไฟฟ้า
สะดวกสบายในการขับขี่ระยะทางไกล มีสถานีให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่หลายจุดยังขาดจุดให้บริการชาร์จไม่มากพอที่จะรองรับการเดินทางระยะไกลได้
ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมไม่มีการปล่อยไอเสียใดๆ สู่ภายนอก
อัตราเร่งความเร็วในช่วงต้น ช้าต้องใช้เวลาอัตราเร่งช่วงต้นสูงและสเถียรกว่า
ค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานเชื้อเพลิง(น้ำมัน) สูงใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ซึ่งราคาถูกกว่า

และนี้ก็เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ ที่เราได้เปรียบเทียบ ความแตกต่างระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์ในปัจจุบัน(รถน้ำมัน) ที่เราได้นำมาแสดงให้ทุกๆ ท่านได้ประจักษ์และเข้าใจมากขึ้น เราหวังว่าทุกๆ ท่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้กันนะครับ